Skip to main content

ช่วง Fasting ไม่เหมาะกับการเรียน/อ่านหนังสือ แต่เหมาะกับการคิดสร้างสรรค์

Submitted by krishrong on

อันนี้มาจากการสังเกตตัวเอง คือ

  • ช่วงเวลาที่ Fasting(เกิด Ketosis) จะสามารถทำ กิจกรรมในเชิงที่ใช้การประมวลความคิด จากดึงความรู้ที่มีอยู่เดิมในสมองมาเชื่อมโยงกัน ได้ดี เกิดเป็นไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ หรือ วิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆ
    • จึงเหมาะกับการทำกิจกรรม ที่เน้นใช้สมองในการ แก้ปัญหา หรือ คิดสิ่งใหม่ๆ เช่น การเขียนบทความ ที่ประมวลความคิดจากสิ่งที่รู้อยู่แล้ว, การคิดไอเดียใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ, การเขียนโปรแกรม, ทำโจทย์เลข เป็นต้น
  • แต่ ช่วงที่ Fasting จะไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ดี เพราะ เมื่อเราอยู่ในโหมด Fasting จะเป็นโหมดที่ร่างกายใช้พลังงานต่ำ กิจกรรมในเชิงที่เป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ จึงไม่สามารถทำได้ดี เพราะ ในกระบวนการเรียนรู้ จะต้องมีการทำความเข้าใจกับข้อมูล ซึ่งต้องใช้พลังงานเยอะกว่า ทั้งการประมวลผลข้อมูล และ คัดกรองข้อมูลจำนวนมาก เช่น ตัดสินถูกผิด ให้ค่าข้อมูล และเลือกจดจำ เป็นต้น 
    • ดังนั้น หากจะต้องทำกิจกรรมที่มีการเรียนรู้ข้อมูลใหม่ๆ จำนวนมาก เช่น อ่านหนังสือ, เรียน เป็นต้น ให้กินอาหารก่อน จะเรียนได้ดีกว่า(มีงานวิจัยว่า กินอาหารเช้าช่วยให้ประสิทธิภาพในการเรียนดีกว่า ก็น่าจะเป็นเหตุผลนี้ด้วยมั้ง)
    • ทั้งนี้ั ไมได้จำเป็นต้องกินทั้งวันนะ เพราะ หลังจากกินอาหารมื้อสุดท้าย ร่างกายกว่าจะเข้าโหมด Fasting ก็ใช้เวลาอย่างน้อย 10 ชม ต่อให้กินมื้อสุดท้ายตอนเที่ยง(12.00น) ก็จะยังอยู่ในโหมดเรียนรู้ได้ ไปจนถึง 4ทุ่ม(22.00น)

ดังนั้น ถ้าจะเรียน หรือ อ่านหนังสือ ให้ทำในช่วงที่กินอาหาร(Feeding), ส่วนกิจกรรมที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา ให้ทำในช่วงที่อด(Fasting)

Add new comment

The content of this field is kept private and will not be shown publicly.

Plain text

  • No HTML tags allowed.
  • Lines and paragraphs break automatically.
  • Web page addresses and email addresses turn into links automatically.